วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เหตุการณ์สำคัญที่พระสงฆ์ได้เข้ามามีส่วนร่วม



วิวัฒนาการในพม่า ยากต่อการแยกแยะระหว่างการใช้ศาสนาทางการเมืองและการพัฒนาสังคม เพราะค่อนข้างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวจนแยกไม่ออก  ในช่วงยุคอาณานิคมนั้นชาวพุทธถูกกีดกันในการเข้าทำงานกับรัฐบาลทั้งๆที่ ตามกฎหมายแล้วก็ไม่ได้มีการห้ามคนศาสนาอื่นเข้ารับราชการ แต่ทางปฏิบัติ รัฐบาลก็พยายามใช้คนอินเดีย คนอังกฤษลูกครึ่งพม่า และคนอังกฤษเองเป็นพนักงานของรัฐเสียเป็นส่วนมาก  ศาสนาพุทธ ถูกตัดความสำคัญออกไปจากรัฐอาณานิคมอย่างสิ้นเชิง ได้มีการพยายามปลูกฝังศาสนาคริสเตียน บ่อนทำลายวัฒนธรรมของชาติต่างๆ  การกระทำเช่นนี้ ทำให้บทบาทของพระสงฆ์ในสังคมพม่าได้รับการยอมรับน้อยลง  การที่อังกฤษเข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานการเมืองของพม่านั้นทำให้สถาบันทางสังคมเก่าของพม่าพังพินาศ ในทางศาสนา การปกครองของสงฆ์ก็ถูกตัดขาด ทำให้สถาบันสงฆ์ล้มเลิกไปโดยปริยาย และพระสงฆ์ขาดระเบียบวินัยแต่อย่างไรก็ตาม ในสมัยที่มีการเลือกตั้งอย่างอิสระในพม่า แนวคิดสังคมนิยมผสมศาสนาพุทธของอูนุ ได้รับการสนับสนุนจากมวลชนมากที่สุด จนแม้เมื่ออูนุหันมาสนใจศาสนามากขึ้นในตอนหลัง ถึงขั้นหันหลังให้กับลัทธิมาร์กซ์ เลิกเชื่อวิธีการใช้เผด็จการโดยชนชั้นกรรมาชีพ อูนุก็ยังชนะการเลือกตั้งในปี 1960 อย่างท่วมท้น และทันทีนั้น อูนุ ก็ประกาศให้พม่าเป็น พุทธประเทศ หรือพุทธรัฐ (Buddhist State) อย่างเต็มที่ โดยมีลักษณะที่พิเศษ 7 ประการคือ
1. ประกาศศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
2. รัฐบาลจะปกป้อง เทิดทูน และสนับสนุนพุทธศาสนา พระธรรมคำสอน และการตรัสรู้
3. รัฐจะช่วยเหลือในการสร้างเจดีย์และโรงพยาบาลสำหรับสงฆ์
4. จะให้มีการสอนศาสนาพุทธในโรงเรียนต่างๆ และโรงเรียนที่จะตั้งขึ้นใหม่ในธรณีสงฆ์
5. กำหนดวันหยุดและเฉลิมฉลองตามพิธีศาสนาพุทธ
6. เจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่จำเป็นต้องนับถือพุทธ
7. ประกันสิทธิและเสรีภาพในการสวดมนต์ บวงสรวงของทุกศาสนา
หลักการข้อ 6-7 ก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ยุวสงฆ์ และการนำเอาหลักการไปปฏิบัติก็ไม่เหมาะสม ทำให้ได้รับการต่อต้านจากกลุ่มนับถือศาสนาอื่นและฝ่ายทหาร ผลที่สุดอูนุ ก็ถูกนายพลเน วิน ทำการรัฐประหารในปี 1962



                การเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 1988 ของนักศึกษาประชาชน และพระสงฆ์ชาวพม่า นับว่าเป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุด ที่เกิดขั้นในชั่วอายุของเราที่มีศาสนาพุทธไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าสาเหตุที่แท้จริงจะเป็นเช่นใด แต่เราก็คงรุ้สึกหดหู่ใจอย่างยิ่ง ที่เห็นภาพพระสงฆ์นำหน้าขบวน ปิดหน้าปราศรัยต่อว่ารัฐบาล บางรูปมีพระสงฆ์บางนิกายถืออาวุธอยู่บนหลังคารถ และมีภาพพระสงฆ์ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์หลายรูป

ที่มาของภาพ
http://www.bloggang.com/viewfb.php?id=freewisdom&month=22-05-2011&group=2&gblog=2

เรียบเรียงข้อมูดโดย

นางสาวเบญจมาภรณ์ บุญสว่าง และ นางสาวสุทธิดา อะหลีกะเส็ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น