เหตุการณ์ที่พระสงฆ์ออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลทหารพม่าที่ทำการปรับขึ้นค่าน้ำมันและก๊าซหุงต้มอย่างฉับพลันโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม – กันยายน
ปี 2550 ได้ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อภาพยนตร์เรื่อง Burma VJโดยผู้กำกับ Jan Krogsgaard และร่วมงานกับทีมข่าว DVB หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า
สำนักข่าวเสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า Burma VJ เป็นภาพยนตร์ที่นำเอาเรื่องราวเหตุการณ์จริงกว่า
80 %
มาแสดง เนื้อหาในหนังจะพูดถึงการประท้วงที่นำโดยคณะพระภิกษุสงฆ์ แม่ชี
นักศึกษาและประชาชน
ตัวเลขของพระสงฆ์ที่ออกมาประท้วงเริ่มจากสิบและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นร้อย
จากร้อยเป็นพันและเป็นหมื่น ทั้งในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์และพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
บวกกับความตึงเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจ จนในท้ายสุด กลายเป็นการประท้วงใหญ่ที่มีประชาชนเข้าร่วมนับแสนคน
เราสามารถเห็นได้ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว
ความกลัวอำนาจมืดและกระบอกปืนได้หายไปจากใจของประชาชนในพม่าไปชั่วขณะ
แววตาของชาวพม่าทั่วไปตามท้องถนนที่ออกมาชุมนุมเริ่มมีความหวังอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพม่าภาพเหตุการณ์พระสงฆ์เดินสวดมนต์ให้กับรัฐบาลพม่าตามท้องถนนในย่างกุ้ง
โดยมีประชาชนพร้อมใจจับมือกันตั้งแถวเป็นแนวยาวโดยรอบ
คอยคุ้มกันไม่ให้พระสงฆ์ถูกทำร้ายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เหตุการณ์เริ่มบานปลายจนทำให้รัฐบาลทหารต้องคอร์ฟิวและห้ามประชาชนออกมาชุมนุมเกิน
5 คน พร้อมทั้งยังเข้าบุกจับตัวพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ ในย่างกุ้งไปจำนวนมาก
ถึงกระนั้น
ประชาชนจำนวนมากและพระสงฆ์จำนวนที่เหลือยังคงออกมารวมตัวประท้วงเหมือนเช่นทุกวัน แต่ในท้ายที่สุดเราก็ได้เห็นภาพทหารพม่าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยการใช้ปืน มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แม้แต่ช่างภาพชาวญี่ปุ่นก็ต้องจบชีวิตอย่างอนาถในเหตุการณ์ครั้งนี้หรือร่างของพระสงฆ์ลอยอึดอยู่ในคลอง
การที่พระสงฆ์ออกมาเป็นแกนนำในการประท้วงครั้งนี้เปรียบเสมือนเป็นกำลังขับเคลื่อนหลักและเป็นแสงสว่างให้แก่ประชาชน สื่อมวลชนบางแห่งเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า Saffron Revolution
หรือ "การปฏิวัติผ้ากาสาวพัสตร์"
การนำเสนอเหตุการณ์ครั้งนี้ DVB ใช้สื่อหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ดาวเทียม วิทยุคลื่นสั้น และอินเตอร์เน็ต เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกฉายไปทั่วโลกรวมถึงในพม่าเองก็ตาม ทำให้รัฐบาลทหารเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากและได้มีการจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อีกทั้งยังมีการวางโทษต่อผู้ที่มี DVD
เรื่อง Burma JV
ไว้ในครอบครองรวมถึงผู้ที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามการนำเสนอผลงานสู่สายตาประชาชนนั้นยังทำได้ง่ายกว่าการเก็บและส่งผ่านข้อมูลเพื่อที่รวบรวมมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่มากพอสมควร
ที่มา
http://www.prachatai.com/journal/2012/05/40481
เรียบเรียงโดย
นางสาวเบญจมาภรณ์ บุญสว่าง
นางสาวสุทธิดาอะหลีกะเส็ม


